
ในบรรดาวงศ์โอลิมเปี้ยน มีเทพอยู่องค์หนึ่งไม่เหมือนทวยเทพองค์อื่น โดยมีร่างกายกึ่งมนุษย์กึ่งสัตว์ แต่ก็ได้รับการยอมรับ เป็นเทพองค์หนึ่งในสวรรค์ชั้นโอลิมปัสมีนามว่า เทพแพน
แพน (Pan) เป็นเทพในระดับหลานของซุส กล่าวคือ เป็นโอรสของเทพเฮอร์มีส กับนางพรายน้ำ อนงค์หนึ่ง แพนเป็นเทพแห่งทุ่งโล่ง และดงทึบ หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เทพแห่งธรรมชาติทั้งปวงก็ไม่ผิด เพราะคำว่า “แพน” ในภาษากรีกแปลว่า “All” หรือทั้งหลายทั้งปวงนั่นเอง
เทพองค์นี้มีรูปร่างผิดแปลก กับเทพอื่น ๆ ที่มักสวยสง่างาม เทพแพนเป็นส่วนผสมระหว่างมนุษย์กับสัตว์ กล่าวคือ ร่างกายหน้าตาเป็นมนุษย์ แต่ท่อนล่างลงไปเป็นแพะ บนศีรษะมีเขาเป็นแพะเช่นกัน และมีหนวดเครา
การที่เทพแพนมีรูปร่าง เช่นนี้นั้น มีเหตุผลสนับสนุนอยู่เบื้องหลังด้วย มิใช่ว่าชอบใจ จะให้เทพเจ้าของตน มีรูปร่างเป็นอย่างไรชาวกรีกก็ว่าไปตามใจชอบมิได้ แต่มีสาเหตุมาจากว่า เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ของธรรมชาติ อันประกอบด้วยมนุษย์ และสัตว์นั่นเอง
ในสมัยแรกเริ่มเดิมที แพนออกจะเป็นเทพที่ร่าเริงและมีความสุขมาก กวีกรีกโบราณ พยายามให้ทุกคน มองเห็นภาพพจน์ ของแพนในลักษณะเทพผู้เริงระบำรำฟ้อน สนุกสนานอยู่เสมอ
เทพแพนมีพรสวรรค์พิเศษ อยู่อย่างหนึ่ง คือเป่าหลอดได้ไพเราะมาก จนกระทั่งครั้งหนึ่งเคยประลองขันแข่งกับเทพอพอลโล เทพแห่งดนตรีกาล เลยทีเดียว หลอดของแพนทำจากต้นอ้อธรรมดา มีลักษณะไม่เหมือนขลุ่ย ภาษาอังกฤษเรียกของสิ่งนี้ว่า Pipe ซึ่งแปลว่าหลอดหรือท่อ

การที่เทพแพน มีเครื่องดนตรีชิ้นนี้ประจำตัวนั้น ได้มีตำนานกล่าวไว้น่าสนใจคือ แพนได้ไปยลโฉมของนางพรายน้ำตนหนึ่งเข้า นามว่า ไซรินซ์ (Syrinx) เกิดถูกชะตาต้องใจเป็นอันมาก จึงติดตามไปหมายจะขอความรัก แต่นางพรายน้ำ ไม่ยินดีด้วย เนื่องจากหวั่นกลัวในรูปร่างของแพน เทพแห่งธรรมชาติ จึงวิ่งหนีเตลิดไป แพนก็ออกไล่ตามจนมาถึงริมน้ำ ครั้นนางพรายน้ำ เห็นท่าจวนเจียนหนีไม่พ้นแน่ จึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากเทพแห่งท้องธาร คำขอร้องของนางสัมฤทธิ์ผล เทพแห่งท้องธารสงสารนาง จึงดลบันดาลให้นางกลายเป็นต้นอ้อประดับอยู่ริมฝั่งน้ำนั่นเอง เมื่อเทพแพนมาถึง และได้รู้ความจริงก็เศร้าสร้อยมาก จึงเอาต้นอ้อนั้น มาตัดและมัดเข้าด้วยกัน ใช้เป็นเครื่องดนตรี เป่าอย่างไพเราะสืบมา และชื่อของนางพรายน้ำตนนี้ ซึ่งแปลว่า หลอดหรือท่อ ยังคงใช้สืบกันมา จนตราบเท่าทุกวันนี้
